Blog

หายจากโควิด-19 ฟื้นฟูสุขภาพอย่างไร

ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19และหายจากการติดเชื้อแล้ว ในบางรายอาจพบว่ามีอาการผิดปกติของระบบต่างๆในร่างกายต่อเนื่องได้เรียกว่าลองโควิดโดยสามารถมีอาการได้นานถึง3เดือนซึ่งอาจเป็นอาการที่หลงเหลืออยู่หรืออาการที่เกิดขึ้นใหม่  เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย นอนไม่หลับ ปวดเมื่อย ใจสั่น และหลงลืม เป็นต้น สาเหตุคาดว่าอาจจะจากชิ้นส่วนของไวรัสที่หลงเหลืออยู่ในร่างกายไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันทำให้เกิดการอักเสบในระบบต่างๆ การตรวจสุขภาพหลังจากหายจากโควิดจึงเป็นสิ่งสำคัญ รายการตรวจที่ผู้ป่วยเคยติดโควิดควรเช็ก!

ตรวจสุขภาพเพื่อเช็คอาการทั่วไปโดยแพทย์

แนะนำให้ตรวจวัดสัญญานชีพ ได้แก่ อุณหภูมิ ชีพจร ความดันโลหิต ค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด และตรวจร่างกายตามระบบที่สอดคล้องกับอาการโดยละเอียด

ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด

ระบบเลือดเป็นอีกหนึ่งกลไกที่สำคัญ เพราะไหลเวียนอยู่ทั่วร่างกายและการเกิดเปลี่ยนแปลงเมื่อผู้ป่วยได้รับเชื้อไวรัส การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดหรือ complete blood count (CBC) เป็นการตรวจปริมาณและลักษณะของเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดที่ไม่เพียงแต่ใช้ในการตรวจวินิจฉัยความรุนแรงของโรคโควิด แต่ยังช่วยประเมินได้ว่าผู้ป่วยต้องฟื้นฟูร่างกายอย่างไรหลังหายจากโควิด

ตรวจเกลือแร่ในเลือด

เมื่อหายจากโควิดบางรายมีอาการอ่อนเพลียเหนื่อยง่ายจากความไม่สมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย เพราะรับประทานอาหารได้น้อยหรือมีการสูญเสียเกลือแร่ในร่างกายเช่นมีอาการอาเจียนหรือถ่ายเหลว จึงแนะนำควรตรวจติดตามเกลือแร่ในร่างกาย

ตรวจค่าการทำงานของตับและไต

การทำงานของตับและไตเป็นสิ่งสำคัญเพราะเป็นอวัยวะที่อาจได้รับผลกระทบจากการป่วยเป็นโควิด ถ้าตรวจพบการทำงานของตับและไตผิดปกติจะได้ดูแลได้ทันท่วงที

ตรวจไทรอยด์

ในบางรายถ้ามีอาการใจสั่นอ่อนเพลียเหนื่อยง่ายผิดปกติ ควรพิจารณาตรวจการทำงานของไทรอยด์

ตรวจระดับน้ำตาลและไขมันคอเลสเตอรอล

ระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรติดตามอย่างต่อเนื่องในคนทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผุ้ป่วยเคยติดเชื้อโควิดเพราะถ้ามีความผิดปกติของน้ำตาลหรือไขมันสูงทำให้เกิดภาวะลองโควิดเป็นมากขึ้นได้

ตรวจถ่ายภาพรังสีปอดและการตรวจสมรรถภาพปอด

บริเวณปอดมักเป็นจุดที่ได้รับความเสียหลังการติดเชื้อโควิดเนื่องจาก Receptor หรือตัวรับที่ไวรัสยึดเกาะเพื่อแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายส่วนมากจะอยู่บริเวณเซลล์ปอด ซึ่งทำให้เกิดอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลียหรือไอเรื้อรังได้ การตรวจเอ็กเรย์ปอดรวมถึง CT-scan และตรวจสมรรถภาพปอดจึงช่วยให้รู้ถึงร่องรอยความเสียหายที่ยังคงอยู่รวมถึงวางแผนฟื้นฟูสุขภาพปอดได้ทันก่อนส่งผลกระทบระยะยาว

ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจและสมรถภาพหัวใจ

ในบางรายมีอาการใจสั่นเหนื่อยง่าย เจ็บแน่นหน้าอก การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจและสมรถภาพหัวใจจึงจำเป็น เพราะอาจได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อไวรัสทำให้การความผิดปกติขึ้นเช่นกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรืออาจรุนแรงถึงหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้

ตรวจการทำงานของระบบประสาทและสมอง

จากผลการศึกษาพบว่าอาการลองโควิดในบางรายทำให้เกิดภาวะหลงลืม ขาดสมาธิ บางรายมีอาการปวดหรือเวียนศีรษะหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง  ดังนั้นการตรวจเช็คระบบประสาทและสมองจึงเป็นลิสต์รายการสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

ตรวจระดับวิตามินดี

วิตามินดีไม่ได้แค่ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพ แต่จากการศึกษาพบว่าวิตามินดีมีส่วนช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น อาจเป็นผลมาจากคุณสมบัติของวิตามินดีในการซัพพอร์ตการทำงานของระบบประสาทและสมอง การทำงานของปอดรวมถึงสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือด

ตรวจระดับภูมิคุ้มกัน

การตรวจระดับภูมิคุ้มกันไม่ว่าหลังการฉีดวัคซีนหรือหลังเคยติดเชื้อโควิด มี 2 ประเภทคือการตรวจภูมิตอบสนองหรือ Antibody ชนิด IgM หรือ IgG ต่อเชื้อ SARS-CoV-2 อย่างไรก็ตามคนที่ระดับความต้านทานหรือ Antibody สูงไม่ได้แปลว่าป้องกันการติดเชื้อได้ 100% แต่จะช่วยลดโอกาสการป่วยหนักรุนแรงหรือเสียชิวิตจากโควิด-19 รวมทั้งการทราบระดับภูมิคุ้มกันทำให้สามารถช่วยวางแผนเรื่องการฉีดวัคซีนในครั้งต่อๆไปได้ดียิ่งขึ้น

จากผลการสำรวจพบว่าอาการลองโควิดนั้นเป็นได้ในทุกระบบของร่างกายและมีหลายอาการ ดังนั้นการตรวจสุขภาพจึงไม่ใช่แค่การค้นหาความเสียหายที่หลงเหลือแต่ช่วยให้รู้ถึงแนวทางในการฟื้นฟูที่เหมาะสมสำหรับบุคคลนั้น ช่วยเสริมให้สุขภาพกลับมาแข็งแรงตามปกติโดยเร็ววันได้